ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลาย ย่อมหลั่งไหลไปสู่ธรรมทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายย่อมยังธรรมทั้งหลายให้บริบูรณ์ เพื่อจากเตภูมิกวัฏอันมิใช่ฝั่งไปถึงฝั่ง คือ นิพพานด้วยประการดังนี้แล ฯ
เราเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติภายใต้ความแปรปรวนไปสู่การจบสิ้นสภาพ. - ขอจง มีลมหายใจแม้แผ่วเบา ได้สุดขั้ว กันเถิด.
ศึล - อินทรี - อาหาร - ชำระจิตให้ตื่นอยู่เสมอ
อำพล จงสิทธิผล
Ampol Chongsitthiphol
เสียสละ ... อดทน ... รับวิบากผู้อื่นไว้บ้าง ... ... แต่มันเหนื่อยนะ เหนื่อยสุดสุดเลยมึง
คำสั่งสอนจาก... พระอาจารย์ใหญ่
เมื่อเข้าสู่ ความนิ่งอันประเสริฐ แล้ว อินทรีย์สงบ จิตระงับ (การสลัดคืน จะเกิดตามมา) จะมีสภาพ ลำดับนี้
  • วิสุทธิ คือ สภาพใจสะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส ผุดผ่อง บรรเจิด ภายใน (และมีอนิสงค์ ต่อกายภายนอกในภายหลัง)
  • วิมุตติ คือ สภาพใจเป็นอิสระจาก สภาพแวดล้อมที่เจือด้วยภพ (ส่วนผสมโมหะ โทสะ โลภะ)

    มีนิพพาน เป็นที่สุด หรือ ปลายทางแห่งทุกข์ เส้นทางจิตจบลงแค่นี้ ด้วย ญานทัสสนะอันหมดจดเกลี้ยงเกลา

  • นิพพาน การอยู่ในสภาพไม่มีการก่อเกิด
    ( อันมาจาก ไม่คิดต่อ ปรุงแต่งต่อ เพราะตัวทำให้คิดต่อปรุงแต่งต่อคือ ตัวโมหะ โทสะ โลภะ)

กัลญานมิตรที่ดี ... ควรเป็นผู้มีวาจาไพเราะ เป็นที่ปรึกษาที่ดี และ เป็นผู้อดทนต่อถ้อยคำ
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา๕ วิโมกข์๘ และ อภิญญา๖ พึงทำให้แจ้งชัด

oodoo7: http://www.polyboon.com/dhumma/16_001.php
oodoo7: พระพุทธเจ้า แจกแจง ความหมาย ไว้ชัดเจน ของ ปฏิจสมุปบาท ใน ภวังคสูตร เลย เนอะ
oodoo7: วิภังคสูตร
oodoo7: ก็อุปาทานเป็นไฉน อุปาทาน ๔ เหล่านี้คือ กามุปาทาน ทิฏฐุปาทาน สีลพัตตุปาทาน อัตตวาทุปาทาน นี้เรียกว่า อุปาทาน
oodoo7: กาม ทิฏฐิ สีลพัต อตตา
oodoo7: อุปทาน ใน สังโยชน์ นั่นเอง
pish9: ค่ะ
pish9: มีอุปาทานในขันธ์๕ ด้วยนะคะ
pish9: http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=17&A=1065&Z=1082
oodoo7: ก็มีสอง ส่วน เนอะ
oodoo7: อุปาทาน ในความคิด กับ อุปาทาน ใน กลไกธรรมชาติ
pish9: แต่มันก็เกี่ยวพันกันค่ะ
pish9: พอมีความคิด ความคิดนั้นมันก็อยู่ในอุปาทาน๔นั่นแหละ
oodoo7: ช่าย เป็นรูปแบบของลูกโซ่ ที่เกิดขึ้นมาแล้ว
oodoo7: สองพันปีก่อน ไม่รุ้ มีโซ่ รึยัง
oodoo7: เลยใช้คำว่า กงล้อ แทน
pish9: อุปาทาน๔มันก็เกิดอยู่ในกระบวนการของขันธ์๕
pish9: เว็บนี้เขาก็อธิบายดีนะ http://www.nkgen.com/7.htm
pish9: อธิบายซะยืดยาวเลย
oodoo7: เขาขยาย ความ เอง เหรอ
pish9: ค่ะ ตามความเข้าใจของเขา โดยอาศัยยกพระสูตรมาประกอบ
oodoo7: ยาวววว เหยียดดดด เลย
pish9: แต่ก็เหมาะกับคนที่ยังนึกภาพไม่ออก ก็เป็นประโยชน์นะคะ
pish9: เช่น คุณลักษณ์ ต้องอธิบายแบบนี้อาจจะเข้าใจได้
oodoo7: ช่ายยยยย
oodoo7: เจ๋งจริงๆ เข้าใจสภาพจิต คุณลักษ ได้ทะลุ
oodoo7: เขาเป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่เอา พยัญชนะเลย รู้แต่สภาวะ
oodoo7: แต่ที่แปลก คือ รู้สภาวะตรง แต่ ไม่ขาด ออก
pish9: เขาไม่เคยศึกษาบทพยัญชนะ ก็ต้องคลุกคลีกับคนที่อธิบายได้
oodoo7: ถ้าขาดออกนี่ จิตจะมี พรหมวิหาร4 เต็ม 100
pish9: เขายังโยงสภาวะไม่ได้ค่ะ
oodoo7: เห็น สรรพสัตว์ ทั้งสิ้น น่าอนุเคราะห์ น่าช่วยเหลือ น่าสงสาร
oodoo7: นั่นสิ โยงสภาวะ ตัวไหน ก็ไม่รู้
pish9: เปรียบได้เช่น เขารู้เฉพาะส่วน ยังโยงให้มันติดต่อกันไม่ได้
oodoo7: ไม่รู้เป็น เพราะพระที่อยู่ ญี่ปุ่น รึเปล่า บอกเขาว่า ไม่ต้องคุยกับใคร ไม่ต้องฟัง ใครอีก แล้ว รึเปล่า
pish9: โยงสภาวะเข้าหาปฏิจสมุปบาท และอื่นๆ
oodoo7: ไป ล๊อค สภาวะ ของเขา ไว้
oodoo7: ใช่ รู้สภาวะ เป็นส่วนๆ รู้ตรงเปะ แต่ทั้งหมด ทั้งไม่โยงกัน เป็น หนึ่งเดียว
pish9: มีสภาวะแล้วก็ต้องรู้ด้วยว่ามันคืออะไร เป็นมาอย่างไร คนที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้าก็ต้องอาศัยธรรมของพระพุทธเจ้าช่วยขยายความ
oodoo7: กล่าว ได้เยี่ยม ต้องเป็น แบบนั้น จริงๆ
oodoo7: พี่ยังไม่เคย พูดให้คุณลักษ ฟัง ในเรื่อง เมื่อ ทุกอย่างขาดออกแล้ว ความเป็น พรหมวิหาร4 เต็ม100 มันเป็นยัง
pish9: มีเพียงพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ที่รู้ได้เอง เราเป็นพุทธบริษัทบางคนก็รู้ส่วนนั้น บางคนก็รู้ส่วนนี้ มันไม่ได้รู้ทั้งหมด แต่ธรรมเพียงบทเดียวก็สามารถทำให้คนเป็นอริยะได้ แต่ละคนก็รู้เพียงบางส่วนเท่านั้น จึงต้องมาศึกษาธรรมพระพุทธเจ้า ถ้าอยากเป็นผู้สอน
oodoo7: รอ ให้ ปัญญา เขาเติมส่วน ได้พอประมาณ ก่อน
oodoo7: แล้ว จี้จุด ไปนิดนึง ก็จะเกิด ญานทัสสนะ ได้ทันที
oodoo7: ตอนนี้ ยังไม่ถึง วาระ
pish9: ถ้าเพียงเอาตัวรอดก็ไม่ต้องศึกษาก็ได้ ก็คงสภาวะเอาตัวรอดไปคนเดียว แต่คนเรามันต้องเกี่ยวข้องกับคนอื่น มันจึงต้องพูดคุยกัน มันจึงต้องศึกษาบ้างเพื่อความเจริญก้าวหน้าทางธรรม
oodoo7: แต่ พี่ก็เคย เกริ่น คร่าวๆ นะ เรื่อง ให้อภัยในทุกสิ่ง
oodoo7: เขาบอก เขายอมไม่ได้
oodoo7: เรื่องนี้เป็นข้อยกเว่้น เพราะ ต้องอยู่ทางโลก
oodoo7: ตกอยู่ใน สภาวะแวดวง เมียน้อย ที่ยังต้องข้องเกี่ยวกัน
oodoo7: คง จะ ยาก อยู่เหมือนกัน
pish9: เขาจะเรียกยางเหนียวหรอ ไม่งั้นคนก็คงไม่ติดอยู่ในโลกเยอะมหาศาลหรอก ก็หลุดพ้นกันไปหมดแล้วถ้ามันง่าย
oodoo7: เนอะ เป็น กาว ยางเหนียว จริงๆ กาวตัวนี้
oodoo7: ตัวอุปาทาน เลย แหละ
oodoo7: เขาติดอยู่คำเดียวว่า ยังต้องอยู่ทางโลก ควบคุ่กันไปด้วย
pish9: บรรลุธรรมแล้วก็ต้องอยู่ทางโลกอยู่ดี แต่เราจะติดโลกหรือเปล่าเท่านั้นเอง
oodoo7: ขึ้นอยู่ กับ กำลังของ โลกกุตตระ ว่า เข้มข้นระดับไหน
oodoo7: ในขณะ ที่โลกียะ กับ โลกุตตระ ยัง เหลื่อม ซ้อนกันอยู่
pish9: ใช่ค่ะ แล้วแต่ว่าจะกลับมาติดยางเหนียวอีกหรือเปล่า ก็มีหลายปัจจัย บางครั้งเหตุปัจจัยรอบตัว สิ่งแวดล้อมก็อาจทำให้กลับมาติดยางเหนียวก็ได้ แต่เราก็ต้องรู้ว่าควรจะทำอย่างไร จะหลีกออกจากตรงนั้นก็ได้
pish9: ส่วนมากคนที่บรรลุแล้ว จะหาทางหลีกออกไม่มากก็น้อย
oodoo7: เนอะ แล้วแต่บารมี ของคนคนนั้น เนอะ
pish9: ใช่ค่ะ มันจะเป็นไปตามธรรม
oodoo7: เรื่อง จิตวิทยา แรงจูงใจ ก็ ตอบ คำถาม พฤติกรรม สัตว์ ได้ ดี นะ
oodoo7: https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B9%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%88
oodoo7: ลอง อ่าน ดู จะรู้ที่มาเลยว่า ทำไม สัตว์ แสดงออก ก้าวร้าวบ้าง แข็งกร้าวบ้าง
pish9: ทิฐิ62
oodoo7: แต่ แรงจูงใจ ต่างกับ แรงบันดาลใจ มาก
oodoo7: 62 เยอะ อ่านไม่ไหว
oodoo7: ถ้าคนที่ใกล้ๆ จะ บรรลุธรรม ได้คุยกับ นะ แปปเดียว ก็จะ บรรลุธรรม เลย
pish9: คนเรามีอะไรๆอยู่ภายในทิฐิ62
pish9: ไม่เกินไปจากนี้
pish9: ขนาดนั้นเลยหรือคะ
pish9: อิคิ
oodoo7: ช่าย จริงๆ
oodoo7: พี่กระโดด เข้า โลกุตตระ ได้เร็ว เพราะ
pish9: สาธุด้วยค่ะ
oodoo7: ถ้า ทำเอง ต้องรอ อภิญญา6 สมบูรณ์ ต้องใช้เวลา อีก สองสาม ปีมั้ง
pish9: คงเคยเกื้อหนุนกันไว้เน้อ
oodoo7: พระอาจารย์ฉันนะ เคยบอกไว้ สามปี จะพลิกจิตเมื่อไหร่ก็ได้ กำลังเพียงพอ
oodoo7: ก่อนหน้าท่านบอกว่า ยังจะเกิดอีกหลายชาติ ก็จริง อยู่ แต่จะพลิกจิตเมือ่ไหร่ ก็ได้
pish9: สิ่งที่พีชพูดไม่ใช่จะรู้ได้ง่ายๆเน้อมันมาจากชีวิตของพีชทั้งชีวิตเลยหละค่ะ
oodoo7: นั่นสิ เนอะ ไม่รู้ ซึมซาบ เข้ามาได้ ไง
oodoo7: พระอาจารย์ฉันนะ บอกว่า ถ้าพลิกได้ ก็พลิก เถอะ ยังจะกลับมาช่วยคนอื่น ก็ยังโง่
oodoo7: เพราะ จะเข้า โลกุตตระ ตามมาตรฐาน ต้อง วิปัสสนา
oodoo7: พี่ แทบ ไม่วิปัสสนา เลย แทบยังไม่ได้เริ่ม ตามแบบแผน เลย
oodoo7: สามปี สภาวะธรรม แล่นฉิวเลย เจอ พระอาจารย์ใหญ่ พระอาจารย์ตุ้ม และก็
oodoo7: พระอาจารย์ใหญ่ฟอกจิตให้ ก่อน
oodoo7: พระอาจารย์ตุ้ม วางพื้นฐาน ให้
oodoo7: จัดให้ จบ เลย
oodoo7: ตอนบวช ครั้งที่สอง ตอนจะลากลับ พระอาจารย์ใหญ่บอกว่า เมื่อจบแล้ว อย่าทิ้งอภิญญา
oodoo7: ตอนนั้น ท่านทิ้งท้าย ไว้แค่นี้
oodoo7: ไม่รุ้ ว่า อภิญญา ตัวไหน
oodoo7: จนวันนี้ ก็ยังไม่รู้ เลย
pish9: คงอภิญญาที่มีฌานมั้ง มันทำให้เกิดญาณหยั่งรู้ได้ง่าย
pish9: คนไม่มีฌาน สอนให้ตายก็ไม่เข้าใจได้
pish9: คนมีฌานสี่ขึ้นไป มันจะมีอภิญญาบางอย่างติดมาด้วยไม่มากก็น้อย
oodoo7: มันไม่เด่นชัด สักตัว เลย
pish9: ตอนที่พีชมีฌานสี่ ยังมีอภิญญาตั้งหลายอย่างแต่พีชไม่รู้ เลยไม่ได้ต่อยอด โชคดีที่มีสิ่งให้หันไปทางวิปัสสนากับความทุกข์ เลยได้ญาณหยั่งรู้ธรรม
oodoo7: อภิญญา1 เหาะเหิรเดินอากาศ ... สงสัยจริงๆ ว่า ทำกันได้ จริงๆ เหรอ
oodoo7: ขนาด พระเทวทัต ยังทำได้ เลย
oodoo7: เหาะ ท่าไหน หนอ
pish9: ของพีชเอาฌานสี่มาใช้ในการคิดเลข เสี้ยววินาทีก็คิดสมการยาวๆเป็นครึ่งหน้าได้ และอีกอันคือ รู้สิ่งต่างๆเช่น แผ่นดินไหวที่ไหนก็รู้สึกได้ ใบไม้หล่นจากต้นไหนก็รู้ ขณะมันหล่นก็รู้สึกได้
pish9: แต่ไม่ได้ต่อยอด เพราะไม่รู้ว่ามันคืออะไร
pish9: เหาะก็เชื่อว่าเป็นไปได้ค่ะ
oodoo7: ตามองในมืด เห็นเป็นที่สว่าง พี่มองทีไร ก็มืด ตื้อทุกที ไม่มีแวว แสงสว่างสักนิด
pish9: มันรู้ด้วยจิต ไม่ใช่จิตด้วยตา
pish9: ไม่ใช่เห็นด้วยตา
pish9: ก็เหมือนตอนเราเห็นธรรมแว็บเดียว มันก็เห็นด้วยจิต
oodoo7: แต่ ตรงกลางหน้าผาก มันยังไม่จบ มันยัง กลุ๊กกลิ๊กๆ อยู่เลย
oodoo7: สงสัย ต้องรอให้ ตรงนี้ จบ สงบ ลง ก่อน มั้ง อภิญญา จึงปรากฏ
pish9: อาจจะเป็นตรงนั้นก็ได้เน้อ
oodoo7: น่าจะยังงั้น มันยังพัฒนาตัว ไม่เสร็จ
oodoo7: เพราะ มันเกี่ยวพันกับ สมองส่วนหน้า แล้วไปเกี่ยวพันกับการสร้าง ชุดเส้นประสาทชุดใหม่ ด้วย
oodoo7: มี ศาสนาพุทธ ศาสนาเดียว เนอะ ที่ พระพุทธเจ้า บอกให้ ลองทำดูเอง ประสบเอง
oodoo7: ศาสนาอื่นๆ บังคับ ให้เชื่อตาม หมดเลย
oodoo7: เพราะ เป็น เทวะนิยม
pish9: ค่ะ
pish9: นอนก่อนนะคะ
pish9: ราตรีสวัสค่ะ
oodoo7: ครับ
oodoo7: พักผ่อนให้ สบาย นะครับ
oodoo7: ราตรีสวัส ครับ

อทุกฺขมสุขํ
อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ
จตุตฺถํ ฌานํ
อุปสมฺปชฺช วิหาสึ ฯ
สัจธรรมแห่งชีวิต

ทำนายชื่อสกุล



รายการน่าสนใจ
ค้นหาคำในพระไตรปิฏก
จิตบรรลุนิพพาน
(สมเด็จพระญาณสังวร)

wunjun - ood
ibuddha - wix
บาลีเทียบเคียง
จิตวิทยา
ญานสังวรธรรม
แปลบาลี
ญาน กถา

sitePage59 = สนทนา - อุปาทาน


    •ข่มไว้ ด้วยฌาน4
    •ด้วยการชำแรก ซึ่งวัฏฏสงสาร
    •ด้วยการตัดขาดภายใน โดยโลกุตตะระมรรค
    •ด้วยสำราญความสงบ ปฏิปัดสัทธิ
    •ด้วยการสลัดออก ดับหัวใจลมหายใจ
    ไม่ประมาท กับปัจจุบัน
    ไม่ประมาท ซึ่งความตาย วินาทีนั้น
    ดำรงความจางคลาย กับปัจจุบัน

    มีแรงบันดาลใจแรงกล้า
    จึงเกิด มุมานะ--ตั้งใจมั่น --> รวมจิตได้

    หาลึกเข้าไปในจิต ซึ่งภาระที่ไม่ยอมวาง
    เมื่อวางลงเสียได้เมื่อไหร่ อิสระทันที

    การทำสมาธิแบ่งเป็น 2 ด้าน

  1. ทางกาย
    คือ กาย+เวทนา
    โดยทำให้ ลมหายใจแผ่วเบา และ หัวใจเต้นเรียบ เป็นการบำรุงร่างกาย และจิตใจไปในตัว และให้มีท้องพล่อง งดอาหารหลังเที่ยง นั่งนิ่งจนมีสภาพถูกล็อคแข็งแกร่งแต่ไม่เกร็ง มีความมั่นคง

  2. ทางใจ
    คือ จิตตา+ธรรมมา
    วิธีจะเข้าถึงโดยการ ตัดกายทิ้ง???
    คือการพยายามระลึกถึงปิติทั่วร่างกาย แล้วเข้าสู่อารมภ์ใดอารมภ์เดียวแห่งปฏิุภาคนิมิต

    การเข้าสู่นิพพาน
    ด้วยการตัดลูกโซ่แห่งการก่อเกิดที่ ตัณหา อุปาทาน ไม่ให้เชื่อมเกิด ภพ ได้ คือ หยุดคิด หลังจากค้นพบแล้วว่า การก่อเกิดทุกชนิดเป็นทุกข์เปล่าประโยชน์

สุขเพราะความสงัด,
สุขเพราะไม่เบียดเบียน,
สุขเพราะปราศจากราคะ ก้าวล่วงกามเสียได้,
สุดอย่างยอด คือการนำความถือตัวออกเสียได้.

พระไตรปิฏก4.ปฐมภาณวาร

อุปทานมีอยู่ แต่ไม่ถือตาม
ถือตามมีอยู่ แต่มีสติไม่ถือ

เพราะวิราคะ อวิชชาจึงดับ
--ปราศจาก โมหะ โทสะ โลภะ--
-คลายจาก ความอยากกระหายอันกดดัน-
เพราะอวิชชาดับ สังขารจึงดับ
--จึงหยุดคิด ไม่คิด--
เพราะสังขารดับ วิญญานจึงดับ
--ไม่ก่อเกิด กายใจสงบ--
เพราะวิญญานดับ นามรูปจึงดับ
--หัวใจจึงราบเรียบเสมอดับ--
เพราะนามรูปดับ สฬายตนะจึงดับ
--หัวใจไม่กระเทือน--
เพราะสฬายตนะดับ ผัสสะจึงดับ
--หยุดการกระตุ้นอวัยวะ--
เพราะผัสสะดับ เวทนาจึงดับ
--ไม่ถูกกระตุ้น ไม่รู้สึก--
เพราะเวทนาดับ ตัณหาจึงดับ
เพราะตัณหาดับ อุปาทานจึงดับ
เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ
เพราะภพดับ ชาติจึงดับ

เพราะเป็นปัจจัยจึงมี เพราะปัจจัยดับจึงดับ

๑. มีสิ่งหวงแหน (เช่น สตรี ) หรือไม่
๒. มีจิตผูกเวรหรือไม่
๓. มีจิตเบียดเบียนหรือไม่
๔. มีจิตเศร้าหมอง ( ด้วยกิเลส ) หรือไม่
๕. ทำจิตเป็นให้ไปในอำนาจได้หรือไม่

    เครื่องเกาะจิตอันเศร้าหมอง
  1. วิจิกิจฉา
  2. อะมะนะสิการ
  3. ถีนะมิทธะ
  4. ความหวาดเสียว
  5. ความตื่นเต้น
  6. ความชั่วหยาบ
  7. ความเพียรที่มุ่งมั่นเกินไป
  8. ความเพียรที่ย่อหย่อนเกินไป
  9. ตัณหาที่คอยกระซิบกระตุ้น
  10. ความสำคัญสภาวะต่างกัน
  11. ลักษณะที่เพ่งเล็งรูปเกินไป

     

    withhold
    ระงับ, ยั้ง, ดอง, ไม่ยอมให้, ยั้งมือ

    settle
    ชำระ, ระงับ, ตกลง, กำหนด, ยุบ, เข้าที่

    quell
    ระงับ, ปราบ, ทำให้สงบ, ดับไฟ, ระงับอารมณ์ stay
    คอย, พักอยู่, หยุดอยู่, อาศัยอยู่, ยืนหยัด, ระงับ

    deaden
    ระงับ, ทำให้ชา, ทำให้มึน, ทำให้ไม่รู้สึก, ทำให้หย่อนลง

    forbear
    อดทน, หักห้าม, อดกลั้น, ละเว้น, ระงับ, ข่มใจ refrain
    ละเว้น, งด, ระงับ, ว่างเว้น, กลั้น, ข่มจิต

    mortify
    ระงับ, ฉีกหน้า, ทรมานร่างกาย, ทำให้บัดสี, ทำให้เสียใจ

    propitiate
    เอาใจ, ระงับ, ประจบประแจง, ป้อยอ, ปลอบ, บรรเทา

    abate
    บรรเทา, รา, ระงับ, รำงับ, ค่อยยังชั่ว, เบาบาง

    allay
    บรรเทา, ระงับ, ทำให้สงบ, ทำให้น้อยลง, คลายกังวล

    alleviate
    บรรเทา, ระงับ, แบ่งเบา, ทำให้น้อยลง, คลายใจ, ค่อยยังชั่ว

    assuage
    ระงับ, ทำให้บรรเทา, ทำให้ผ่อนคลาย, ค่อยยังชั่ว, น่าพึงพอใจ

    calm
    ใจเย็น, ระงับ, เงียบสงบ, ไม่ตื่นเต้น, ไม่มีลม, หงิมๆ