ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลาย ย่อมหลั่งไหลไปสู่ธรรมทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายย่อมยังธรรมทั้งหลายให้บริบูรณ์ เพื่อจากเตภูมิกวัฏอันมิใช่ฝั่งไปถึงฝั่ง คือ นิพพานด้วยประการดังนี้แล ฯ
เราเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติภายใต้ความแปรปรวนไปสู่การจบสิ้นสภาพ. - ขอจง มีลมหายใจแม้แผ่วเบา ได้สุดขั้ว กันเถิด.
ศึล - อินทรี - อาหาร - ชำระจิตให้ตื่นอยู่เสมอ
อำพล จงสิทธิผล
Ampol Chongsitthiphol
เสียสละ ... อดทน ... รับวิบากผู้อื่นไว้บ้าง ... ... แต่มันเหนื่อยนะ เหนื่อยสุดสุดเลยมึง
คำสั่งสอนจาก... พระอาจารย์ใหญ่
เมื่อเข้าสู่ ความนิ่งอันประเสริฐ แล้ว อินทรีย์สงบ จิตระงับ (การสลัดคืน จะเกิดตามมา) จะมีสภาพ ลำดับนี้
  • วิสุทธิ คือ สภาพใจสะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส ผุดผ่อง บรรเจิด ภายใน (และมีอนิสงค์ ต่อกายภายนอกในภายหลัง)
  • วิมุตติ คือ สภาพใจเป็นอิสระจาก สภาพแวดล้อมที่เจือด้วยภพ (ส่วนผสมโมหะ โทสะ โลภะ)

    มีนิพพาน เป็นที่สุด หรือ ปลายทางแห่งทุกข์ เส้นทางจิตจบลงแค่นี้ ด้วย ญานทัสสนะอันหมดจดเกลี้ยงเกลา

  • นิพพาน การอยู่ในสภาพไม่มีการก่อเกิด
    ( อันมาจาก ไม่คิดต่อ ปรุงแต่งต่อ เพราะตัวทำให้คิดต่อปรุงแต่งต่อคือ ตัวโมหะ โทสะ โลภะ)

กัลญานมิตรที่ดี ... ควรเป็นผู้มีวาจาไพเราะ เป็นที่ปรึกษาที่ดี และ เป็นผู้อดทนต่อถ้อยคำ
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา๕ วิโมกข์๘ และ อภิญญา๖ พึงทำให้แจ้งชัด


oodoo7: เพิ่ง คุย กับ อาจารย์ตุ้ม กับ เพื่อน จบ

oodoo7: คนละ สอง ชั่วโมง แหนะ

pish9: โฮคุยนานจัง

oodoo7: เย็นนี้ ทาน ถั่วเขียวต้ม

oodoo7: อาจารย์ตุ้ม สอบ สภาวะธรรม

oodoo7: พระอาจารย์บอก แบบ ที่ บอกพี่

pish9: ทางโทรศัพท์หรอ

oodoo7: ให้ เจริญสัญญา นั้นๆ บ่อยๆ ให้เป็น วสี

oodoo7: ครับ ทางโทรศัพท์

oodoo7: และ ก็บอก ที่เหลือ เหมือนที่ บอก

oodoo7: ว่า อยู่ทางโลก แม้จะไม่ทุกขื แต่ก็ทำตามหน้าที่ ทางโลก ไป

pish9: พระอาจารย์ตุ้มอยู่ที่วัดหรอคะ

oodoo7: อยู่ที่ กาญ ครับ

pish9: ท่านเก่งเน้อ

oodoo7: พอดี แม่เพื่อน กับ น้องสาวเพื่อน จะไปหา พระอาจารย์ตุ้ม พรุ่งนี้

oodoo7: เลย โทร นัด ให้ พวกเขา

oodoo7: เลยได้ คุย กัน ยาว

oodoo7: อาจารย์ตุ้ม บอกว่า เวลาคุย กับ คุณลักษ ไม่ต้อง ร่าย หลักการ ยาว

oodoo7: ให้ คุณ สภาวะ ที่ พี่เป็น เลย แล้ว ถามเขาเลย เขาเหมือนแบบนี้ ไม๊

oodoo7: ทวน สภาวะนี้ ให้ คุณลักษ บ่อยๆ แล้ว เขา จะขาด ออกจาก โลกียะ เอง

oodoo7: คือ คุณลักษ สภาวะเขา ถึง แต่ ปัญญา เขายัง ไม่วิมุตติ

oodoo7: จึง ยัง ขาด ออก ไม่หมด ยังมีอุปาทาน เหลือ

oodoo7: ส่วนเพื่อน เขาถามว่า อุปาทาน ตัดที่ หยุดคิด

oodoo7: แล้ว มันเกี่ยว กับ หยุดคิด ยังไง

oodoo7: เลย อธิบาย ปฏิจสมุปบาท ให้ฟัง แบบ ลึกซึ้ง

oodoo7: เขาเข้าใจ แต่ยังจำไม่ได้

oodoo7: แค่นี้ ก็ พอแล้ว

oodoo7: เข้าใจได้ เป็นพอ แล้ว เนอะ

pish9: เขาต้องได้อ่านปริยัติบ้างเน้อ แล้วเทียบเคียงกับสภาวะที่ตนเองเป็น

oodoo7: เขา ก็ พยายาม อ่าน นะ แต่เขาบอก อ่านไม่รู้เรื่องเลย

pish9: เขาต้องได้คุยกับคนที่อธิบายให้เขาฟังได้ และต้องใช้เวลาด้วย กว่าจะเข้าใจ

oodoo7: ครับ เลยใช้ วิธี ฝังเมล็ดพันธ์ ให้ก่อน

oodoo7: วันนึง เมื่อวาระ ถึง เมล็ด ก็จะ ออก ผล สุก หล่น ลงมาเอง

pish9: และต้องได้อ่านคำสอนของครูบาอาจารย์บ้าง

oodoo7: ทำได้ แค่นี้ แหละ

pish9: มีคำสอนที่ดีมาก ที่จะสอนเรื่องนี้ก็มีนะคะ

oodoo7: เหรอ

oodoo7: บทไหน เอ่ย

pish9: มีคำสอนของพระอาจารย์มหาบัว และ

pish9: และ คิดชื่อไม่ออก ขอหาก่อน

pish9: หลวงปู่ดุลย์

oodoo7: คำสอน ในเรื่อง ไหน

pish9: คิดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงรู้ แต่ต้องอาศัยคิดนั่นแหละจึงรู้

pish9: http://group.wunjun.com/truthoflife/topic/172483-4063

pish9: ของหลวงตามหาบัว ก็มีแบบอ้อมๆ แต่ต้องเข้าใจปฎิจสมุปบาทนั่นแหละค่ะ 

oodoo7: ปฏิจะ เป็นแกน สำคัญ เนอะ

oodoo7: ความลึกซึ่ง สามารถ แปลง ได้หลายรูปแบบ

oodoo7: พรุ่งนี้ พาแม่ ไปตามนัด หมอ

pish9: พีชก็อ่านมาเยอะหลายๆอาจารย์ประกอบกัน มันช่วยได้ มันช่วยทำให้เข้าใจ

oodoo7: ตอนนี้ เร็วแล้ว เขาปรับยา ให้ เสร็จแล้ว

oodoo7: ก็ส่งต่อ หมอ ทั่วไป สั่งยาตามนั้น

oodoo7: ไม่เกินเที่ยง ก็เสร็จแล้ว

pish9: ค่ะ

oodoo7: พ่อ กำหนด วัน มากรุงเทพ รึยัง ครับ

pish9: ยังค่ะ

pish9: อาจจะไปวันอาทิตย์พักที่บ้านพี่ชาย แล้ววันจันทร์เช้าก็ไปวิ่งเรื่องที่ รพ.ราชวิถี

oodoo7: ตอนออกมา จาก มีน ไป อนุเสารี รถจะติดมากเลย นะ

pish9: คำสอนของหลวงพ่อพุธก็ดี ก็มีส่วนหนึ่งที่ทำให้พีชเข้าใจได้มากขึ้น

pish9: คงออกมาดึกๆค่ะ

pish9: เว็บสัจจธรรมแห่งชีวิตนั้น เป็นข้อมูลที่พีชอ่านแล้วก็นำมาบันทึกไว้ในเว็บ เวลาหาทบทวนจะได้หาเจอ พีชไปอ่านที่ไหนก็ก๊อปปี้มาเก็บไว้ที่เว็บนี้ค่ะ

oodoo7: ดี นะ เยอะ เลย

pish9: แต่บางคำสอนก็อ่านผ่านๆ

pish9: ค่ะ เผื่อคนอื่นด้วยค่ะ

oodoo7: เสียดาย เนอะ

oodoo7: แต่ แปลก ที่ เซอฟเวอ ยังอยู่

oodoo7: ใคร จ่าย ค่าเช่า

pish9: มีคนใจบุญเขาทำเขาเว็บฟรีขึ้นเพื่อจะสร้างสรรค์สังคมออนไลน์ให้มีความสุข รู้สึกเขาจะเป็นลูกของผู้อำนวยการโรงเรียนอยู่ทางภาคอีสาน

oodoo7: แต่ เวบ ก็ แน่นิ่ง ไป เลย เนอะ

oodoo7: สมัคร สมาชิกใหม่ ไม่ได้แล้ว

pish9: ใช่ค่ะ ตอนแรกเขา ก็พัฒนาและมีเว็บส่วนกลางให้พวกเราตอบถามปัญหาเว็บ เขาจะทำเหมือนเว็บพันทิพ

pish9: และเปิดให้ทำเว็บฟรีด้วย แต่กลุ่มของเขาพัฒนา เปลี่ยนรูปแบบเว็บตั้งหลายครั้ง จนคนทำเว็บเบื่อ เพราะทำเว็บแบบใหม่ พวกเราคนเล่นเว็บลิ้งค์ก็เสียทุกที จนเราตามแก้ไม่ไหว

oodoo7: อ๋อ คนดูแล เลยเลิก

oodoo7: เพราะ เหตุนี้ เอง

pish9: พวกเขาพัฒนาไม่สำเร็จ เขาเลยปิดเว็บส่วนกลางที่พูดคุยการแก้ปัญหาเว็บ ปล่อยให้เราเล่นกันต่อไปเท่าที่เดิม ไม่เปิดให้คนเข้ามาใหม่

pish9: ลองอ่านธรรมหลวงดุลย์ในเว็บสัจจธรรมแห่งชีวิต ไปเรื่อยๆ ก็คิดว่าน่าจะได้ความรู้อะไรเยอะนะคะ

oodoo7: สองปี ก่อน มี ซีดี ฟัง ด้วย นะ

oodoo7: ตอนนั้น ท่านเทศ เรื่อง จิตดูจิต

oodoo7: เน้น เรื่องจิตดุจิต มาก

pish9: พีชบันทึกคำสอนของท่านไว้ที่นี่ค่ะ http://group.wunjun.com/truthoflife/4063

oodoo7: อย่างหนัก เลย

oodoo7: เขาว่า มีพายุเข้า

oodoo7: อาจารย์ตุ้ม อธิบายเพิ่มว่า ฌาน ขณะเป็นโลกุตตระ ต่างกับ ฌานโลกียะ

oodoo7: ฌานโลกุตตระ เป็น ฌานปัญญา

oodoo7: ควบรวม เป็น ตัวเดียวกัน ญาน

pish9: ใช่ค่ะ เขาเรียก ญาณทัสสนะ

oodoo7: จึงรู้สึกว่า มี ทั้งฌาน ทั้งญาน จับ ที่จิต อยู่ในตัว

oodoo7: อธิบายเพิ่มอีกว่า เมื่อมัน วิสุทธิแล้ว จะเป็น สัมมาญาน ทันที

pish9: ฌานที่ผสมเข้ากับโลกุตตระ มันจะทำให้เกิด ญาณความรู้ เป็นญาณหยั่งรู้ 

oodoo7: ช่ายยยย อาจารย์ตุ้ม บอกแบบนั้น เลย

oodoo7: ต่างกับ ฌานสี่ ธรรมดา

oodoo7: ฌานสี่ธรรมดา ไม่มีปัญญา

oodoo7: ฌานสี่โลกุตตระ เป็นฌานปัญญา มีความรู้ในตัว

pish9: ฌานทุกตัวถ้าไม่ผสมเข้ากับวิปัสสนา มันจะเป็นแค่ฌานโลกียะ

pish9: ฌานทุกตัวถ้ามันผสมเข้ากับวิปัสสนา มันจะเกิดปัญญาญาณหยั่งรู้วิมุติ คือหยั่งรู้ไตรลักษณ์

oodoo7: คำว่า ไตรลักษณะ ก็ลึกซึ้ง เนอะ

pish9: เขาจะเรียกมันว่า วิมุตติญาณทัสสนะ

oodoo7: สภาพธรรมชาติของสรรพสิ่ง (เกิดขึ้นของมันเอง แปรปรวนเปลี่ยนแปลงของมันเอง และจบสิ้นสภาพของมันเอง)

pish9: ใช่ คนที่เคยประสบสภาวะไตรลักษณ์เขาจะรู้กับสิ่งที่พี่กำลังพูด เรื่องฌานไปผสมกับโลกกุตระ

oodoo7: อาจารย์ตุ้ม บอกว่า คนที่รู้แบบพี่ แม้แต่ พระที่สุพรรณ ก็ยังน้อยมาก

oodoo7: สภาวะโลกุตตระ แข็งแกร่ง มาก

oodoo7: ได้ อนิสงค์ เยอะ เลย

oodoo7: ทำให้ สภาวะโลกุตตระ ไปเร็วมาก

oodoo7: แทบ ไม่ต้องทำ วิปัสสนา เลย นะนี่

pish9: อิคิ

oodoo7: มัน เกิด ในฝัน แทบไม่ต้องทำอะไร เลย แหละ

oodoo7: เกิดสภาวะ แยกขาด ทันทีเลย แถม ถอนออกจากฝัน สติ สภาวะ ตามมาด้วย

oodoo7: หลังจาก ก็เกิด เอง บ่อยๆ แบบ บอกเลย

oodoo7: เดวนี้ แค่ นึก ก็เกิดสภาวะนั้นแล้ว

oodoo7: แต่ มีผล นาน ไม่แน่นอน

oodoo7: บางที สอง สาม ชม จางหาย

oodoo7: บางที เป็น วันสองวัน

pish9: ค่ะ เพราะพี่เกิดในฝัน มันเลยอยู่ไม่นานมากค่ะ แต่พีชเกิดขณะที่พีชกำลังอยู่ในอริยาบทในชีวิตประจำวัน คือ นั่ง เดิน ยืน 

pish9: แต่ถึงจะรู้อย่างไร มันก็เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อีกทีหนึ่ง คือ มันก็ไม่เที่ยง ไม่อยู่คงตัว แล้วมันก็หายไป เราต้องทำสัญญา 10 บ่อยๆ

oodoo7: ช่าย ความคงที่ มันอยุ่ที่ สติ

pish9: สติก็ไม่เที่ยงค่ะ เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของขันธ์ 5

oodoo7: มันสถิตที่จิต ไม่ได้ เพระา จิต เกิดดับ และ เป็น อนิจจัง

pish9: จิตที่เป็นจิตเกิดดับ และเป็นอนัจจังนั้น คือจิตที่มาจับยึดขันธ์5 เขาเรียกจิตสังขาร

pish9: คือจิตที่คิด ที่ปรุงแต่ง

pish9: แต่จิตจริงๆนั้น มันไม่เกิด ไม่ดับ ไม่มีมา ไม่มีไป 

oodoo7: จิตอันนั้น คือ จิตวิญญาน หรือ ที่เรีกยว่า พุทธะ หรือที่เรียกว่า พลังงานชีวิต

oodoo7: คนละความหมาย กับจิต สังขาร รึเปล่า

pish9: จืตจริงๆนั้น เขาเรียก พุทธะ ถูกต้องค่ะ

pish9: แต่จิตวิญญาณ คือจิตที่ถูกปรุงแต่ง จิตที่คิด คือจิตสังขาร

pish9: จิตจริงๆ มันจะบริสุทธิ์ ไม่มีอะไรปรุงแต่งมันได้

pish9: จิตจริงๆ ตอนที่ยังไม่บริสุทธิ์ มันจะถูกอวิชชาหุ้มอยู่ มันกับอวิชาจะผสมกันอยู่เป็นเนื้อเดียวกัน เขาเรียกมันว่า จิต มโน วิญญาณ ทั้งสามชื่อนี้เป็นสิ่งๆเดียวกัน แต่คำเรียกที่เรียกว่าจิต บางทีเราจะต้องรู้ว่าจิตตอนนั้นบริสุทธิ์หรือยัง ถ้ายังไม่เคยบรรลุธรรมก็ยังไม่บริสุทธิ์ 

oodoo7:  ขยาย ความได้ ดีเนอะ

pish9: ถ้ายังเป็นจิตที่ยังไม่บริสุทธิ์ มันจะเป็นจิตที่ถูกปรุงแต่งได้ เพราะมันมีอวิชาผสมเป็นเนื้อเดียวกันอยู่ มันจึงถูกปรุงแต่งได้ มันจึงไม่เที่ยง จึงเกิดดับ ไปตามสิ่งปรุงแต่ง

pish9: จิตที่ยังไม่บริสุทธิก็เปรียบเสมือนน้ำใสผสมกับน้ำสี มันก็กลายเป็นน้ำสี เป็นเนื้อเดียวกัน

pish9: จะแยกน้ำออกจากสีได้ก็ต้องใช้วิธีกลั่น วิธีกลั่นก็เปรียบเสมือนกันทำวิปัสสนา วิปัสสนาจะเกิดเป็นผลได้ก็ต้องทำจนเกิดเป็นญาน จะเรียกว่า เกิดวิปัสสนาญาณ วิปัสสนาญาณมันจะไปผสมกับฌาน ตรงนี้แหละคือ ฌานผสมเข้ากับโลกกุตระ

pish9: ตอนที่ฌานผสมเข้ากับโลกกุตระ หรือ ตอนที่ฌานผสมเข้ากับวิปัสสนาญาณ เขาเรียกว่ามันเกิด วิมุตติญานทัสสนะ คือ บรรลุธรรม

oodoo7: ลึกซึ้ง เนอะ ... ต้องคนที่เคยประสบ เท่านั้น ถึงจะเข้าถึง สิ่งที่เป็น ตรงนี้ได้

pish9: วิมุตติญาณทัสสนะ ก็คือ จิตที่บริสุทธิ์ หลวงตามหาบัวเรียกว่า อายตนะนิพพาน

pish9: มันเป็นอายตนะที่บริสุทธิ์ที่ต่อไปก็จะใช้ตัวนี้ในการรู้

pish9: ก็คือ จิตบริสุทธิ์ จะเป็นสิ่งที่รู้สิ่งต่างๆ

pish9: ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่บรรลุธรรม มันจะเป็นจิตที่มีอวิชชาห่อหุ้มเป็นตัวรู้สิ่งต่างๆ

pish9: แต่คนที่เข้าถึงจิตที่บริสุทธิ์แล้ว เขาก็ยังอาศัยขันธ์๕ อยู่ 

oodoo7: แล้ว ก็คุย ถึง วิโมกษ์8

oodoo7: อาจารย์ตุ้มบอกว่า ต่อไป ก่อนจะเข้าวิโมกษ์8 ให้อธิษฐานก่อน ว่า สภาวะจะกลับมาเป็นปกติ เมื่อไหร่

oodoo7: ไม่งั้น พอเข้าถึงสัญญาเวทยิท มันจะทิ้งจริงๆ ทิ้งทั้งหมด เลย

pish9: ขันธ์๕ มันก็มี รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ทั้ง ๕ ขันธ์นี้ มันเป็นทุกข์ 

oodoo7: แล้ว พอจะกลับมา ร่างกายไม่ตอบสนองอีกต่อไปแล้ว

oodoo7: (สองปีก่อน พี่เคยเข้าไปรู้ แต่ยังไม่ได้สัญญาเวทยิท ก็รู้แล้วว่า ถ้าเข้าไปตรงนี้ มันจะทิ้งจริงๆ ไม่กลับมาแล้ว)

oodoo7: อาจารย์ตุ้ม ก็บอก ยังกลับ อยู่

oodoo7: วันนี้ บอกคล้ายๆ เหมือนครั้งก่อน แต่ กลับมาไม่ครบ อิอิ

pish9: คงเข้าใจเรื่องจิตแล้ว ในพระไตรปิฏก บางที่เขาก็จะเรียกจิตที่บริสุทธิ์ว่า จิต เฉยๆ เลยทำให้คนแยกไม่ออกว่า จิตอันไหนเกิด ดับ จิตอันไหนไม่เกิดไม่ดับ เขาเรียกจิต เหมือนกัน เลยทำให้คนไม่เข้าใจ คนจะเข้าใจได้ต้องคนที่บรรลุธรรมแล้วเท่านั้น

oodoo7: ช่าย ใหม่ๆ งง กับ คำว่า จิต มาก

pish9: เรื่องจิตจึงเป็นที่ถกเถียงกันไม่จบ ในทุกๆ บอร์ด

oodoo7: ช่าย เพราะ เอาจิตทางพุทธศาสนา ไปปน กับจิตวิญญาน เป็นความหมายเดียวกัน

pish9: เพราะในตำรา เขาเรียก จิตเหมือนกันหมดเลย เขาไม่ได้แยก 

oodoo7: เลย ตีกันเละ สองความหมานนี้

pish9: พีชเคยอธิบายเรื่องที่เกี่ยวข้องกันนี้ไว้ที่บอร์ดพลังจิตกระทู้ นิพพานไม่ใช่ผู้รู้

oodoo7: ยังมีลิ้ง อยู่ไม๊

pish9: ลองอ่านกระทู้นี้นะคะ มันเป็นความรู้สูงสุดที่พีชอธิบายไว้ พีชใช้ชื่อว่า MindSoul1 กระทู้ลิ้งค์นี้ค่ะ

pish9:http://board.palungjit.org/f4/%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89-505657.html

oodoo7: อิอิ ต้องเอา มา บันทึก ใน เวบ นี้ สักหน่อย

pish9: อ่านให้หมดของทุกคนนะคะ เพราะมันเกี่ยวข้องกัน

oodoo7: ขออธิบายเรื่อง วิมุตติญาณทัสสนะ หรือที่หลวงตามหาบัวเรียกว่า อายตนะนิพพาน ก่อนนะคะ

oodoo7: อันนี้ ป่าว

pish9: ค่ะ 

oodoo7: เมื่อวิมุตติญาณทัสสนะปรากฏ จะมีสิ่งที่เกิด-สิ่งที่ถูกปรุงได้รอดออกไป 
ไม่ใช่มีอะไรเกิดขึ้นมาใหม่

pish9: ต้องอ่านบทความของหลวงตามหาบัวด้วยนะคะ อยากให้อ่านทุกความเห็น เพราะมันเกี่ยวข้องกัน

oodoo7: นี่แหละะะะ หนึ่งใน สภาวะนั้น ไม่มีอะไรเกิดขึ้นใหม่

oodoo7: เพราะ มันปราศจากอุปาทาน และ ไม่มีการคิด แล้ว

oodoo7: มัน ไม่คิด ของมัน เอง

oodoo7: มันได้ แต่รู้ (อย่างมีปัญญา) แล้วรู้ผ่าน

oodoo7: มันเป็น สภาวะ

oodoo7: ไม่สามารถ อธิบาย ให้คนทั่วไป รู้ได้

oodoo7: ต้องประสบก่อน ถึง คุยกัน รู้เรื่อง

pish9: คัดลอกไปไว้ในเว็บก็ดีนะคะ เพราะพีชอธิบายอย่างนั้นไม่ได้อีกแล้ว คือ หมายถึง ไม่สามารถไปหาพระสูตรมาประกอบ ความคิดเห็นแบบนั้นไม่ได้แล้ว เพราะ มันก็ลืมพระสูตรเหล่านั้นแล้วว่าหามาจากไหน

oodoo7: แล้ว กระทู้นั้น มีข้อความ ของคนไหน เด่น อีก บ้าง

pish9: ก็บทความของหลวงตามหาบัวที่พีชคัดลอกแล้วเน้นสีไว้ ตอนต้นๆกระทู้ค่ะ

oodoo7: แต่ฉันถามว่า หลวงตาจะเอายังไง ฉันศึกษา ฉัน งง ค่ะ ฉันต้องการความกระจ่าง ฉันไม่ใช่คุณนะค่ะเอามาลงสองกระทู้ พูดต่างกันราวฟ้ากับเหว ทั้งๆๆที่พระรูปเดียวกันท่านเทศน์คุณเคยอ่านมาก่อนเอามาลงหรือเปล่าค่ะ

pish9: คุณอุรุเวลาเขาก็ยกพระสูตรมาประกอบได้ดีเหมือนกันค่ะ

oodoo7: นาน รึยัง นี่ กระทู้ นี้

pish9: หลายปีแล้วค่ะ

oodoo7: 2013

oodoo7: "จิตหลุดพ้นแล้ว จิตจึงดำรงอยู่" ที่บอกว่าไหลไปไหลมานั่นมันความคิดที่คุณไหลไปตามอายตนะ ครับ

oodoo7: ประเด็นอยู่ที่ นิพพาน

oodoo7: นิพพาน หมายถึง สุดทาง ปลายทาง

oodoo7: จิตนิพพาน ก็ จิตสุดแค่นี้

oodoo7: ต่อไป ไม่ใช่จิต แล้ว

oodoo7: เป็นเพราะ ยังยึดจิต อยู่ เขาเลย งง กับ พยัญชนะ

pish9: หลวงตามหาบัวเรียก อายตนะนิพพาน

oodoo7: ก็ ทุกอย่าง มัน ถึง ปลายทาง หมดแล้ว

oodoo7: กระทู้นี้ ดี เนอะ

oodoo7: สองปี ก่อน พี่เพิ่งเริ่ม ปฏิบัติธรรม ยังไม่ได้เข้ามาอ่าน

pish9: ค่ะ

oodoo7: เดือน 7 2013 เดือน กค ปีนั้น

oodoo7: พี่กำลัง ฝึกเข้า อรูปฌาน อยู่เลย อย่างเข้มข้น

oodoo7: อิอิ

pish9: ตอนนั้นหัวพีชก็ยังแล่นอยู่ แต่ตอนนี้หัวไม่แล่นแล้ว เพราะโรคที่เกิดจากการร้องไห้ที่พี่สมบูรณ์ทำให้ร้องไห้

pish9: จึงเป็นคนสุดท้ายที่พีชได้รื้อฟื้นให้อดีตให้ได้ คนอื่นต้องหาอ่านเอาจากกระทู้เดิมๆ เข้าใจก็โชคดี ไม่เข้าใจก็ถือว่ายังไม่ถึงวาระ

pish9: พีชไม่สามารถไปโพสได้อีกแล้ว เพราะหัวไม่แล่น ทะเลาะกับคนอื่นไม่ได้แล้ว

oodoo7: ทะเลาะ นั้น เปล่าประโยชน์ เนอะ

oodoo7: เราไม่ถูกรัดแน่น แต่อีกฝ่าย จะโดนรัดแน่นมากขึ้น

pish9: แต่ก่อนพีชโพสที่ลานธรรมจักรด้วย มีคนรุมพีชเยอะเหมือนกัน พีชคนเดียวพีชก็เอาตัวรอดได้ เพราะหัวมันยังแล่นอยู่ และคนอื่นก็ได้ประโยชน์จากการโพสของพีชด้วย

oodoo7: จิตเป็นผู้รู้ จิตรู้ที่ไหน สติเกิดที่นั้น จิตดับที่ไหน สติดับที่นั้น

oodoo7: คำกล่าวนี้ ไม่ถูก

pish9: ถูกค่ะ

oodoo7: ในโลกุตตระ ไม่มีจิต

pish9: เขาพูดโลกียะค่ะ

pish9: จิตผู้รู้นั้น ยังเป็นจิตที่มีอวิชชาอยู่ค่ะ

oodoo7: DuchessFidgette คนนี้ ตามอ่านตลอดเลย

oodoo7: ในโลุตตระ มีแต่ สติ ที่ยังอยู่ได้

pish9: ในโลกกุตระ สติมันเป็นญาณทัสสนะ

pish9: ในโลกกุตระ รู้ได้ด้วยญาณทัสสนะ

pish9: สติมันเป็นส่วนหนึ่งของขันธ์๕ มันมีเสื่อมได้

oodoo7: ความหมายอันเดียวกันผมเข้าใจครับ แต่มันต่างกันอย่างไรครับ

oodoo7: อ้าว กระทู้ จบ ตรงนี้

pish9: กระทู้มี 3 หน้าค่ะ

oodoo7: เขาถาม จิตมนุษ กะ จิตสัตว์ ต่างกันอย่างไง

oodoo7: มนุษ กะ สัตว์ ก็ อันเดียวกัน

pish9: ใช่ค่ะ

oodoo7: ขนาด พรหม ยังถือว่า เป็นสัตว์ เลย

oodoo7: อะไร ที่ กลับมาเกิดได้ ถือว่า เป็น สัตว์ หมด

oodoo7: 3 หน้า เอง

pish9: ใช่ เขาเรียกว่า สัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้นมีตัณหาเป็นเครื่องผูก เรียกสั้นๆว่า สัตว์

oodoo7: อิอิ กำลัง มันส์

oodoo7: เท่ากับ สัตว์ผู้มี อุปาทาน เป็นเครื่องกั้น มี ความกระหาย เป็นเครื่องผูก

oodoo7: เนื่องด้วยว่า เพราะ มีคิด

oodoo7: จึงยังไม่จบ

oodoo7: กระทู้นี้ ความรู้ลึกซึ้ง เนอะ

oodoo7: คนที่มาถาม เขา จะได้ อนิสงค์ ไม๊นี่

pish9: ค่ะ

oodoo7: ดู เหมือน จะยังไม่เข้าถึง

pish9: เรื่องแบบนี้พูดคนเดียวไม่ได้ ต้องมีคนถาม ถึงจะตอบ แล้วก็ต้องดูคนรับฟังด้วยถ้าเขาไม่เข้าใจก็ต้องหยุด

pish9: เพราะพูดไปไม่มีใครเข้าใจเด่วก็ทะเลาะกันอีก

pish9: วันนี้ได้คุยเรื่องสูงสุดกันเน้อ อิคิ

oodoo7: ช่ายยยยย

oodoo7: พระอาจารย์ตุ้ม ก็ พูด แบบนี้ คืนนี้

oodoo7: พูด เหมือนกัน เปะ เลย -----------------------------------------------------

oodoo7: อาจารย์ตุ้ม บอกว่า ของพี่ สายปัญญา ปัญญาล้ำเลิศ พอปฏิบัติธรรม ทุกก้าว มันถูกทาง ไปหมดเลย

oodoo7: เพราะ จิต มันเคย โลดโผน มาจน ครบถ้วน แล้ว

oodoo7: มัน จึง ไม่ฉีก แนว ไถล ออกไป

oodoo7: มัน พุ่ง เข้าหา เส้นทางที่ถูกต้อง อย่างเดียว

pish9: ก็มันเสถียรออกมาในทุกอริยาบทแล้วงัยคะ ถ้าออกมาทุกอริยาบทแล้วมันจะเสื่อมยาก แต่ไม่ใช่ว่าเสื่อมไม่ได้นะคะ

อทุกฺขมสุขํ
อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ
จตุตฺถํ ฌานํ
อุปสมฺปชฺช วิหาสึ ฯ
สัจธรรมแห่งชีวิต

ทำนายชื่อสกุล



รายการน่าสนใจ
ค้นหาคำในพระไตรปิฏก
จิตบรรลุนิพพาน
(สมเด็จพระญาณสังวร)

wunjun - ood
ibuddha - wix
บาลีเทียบเคียง
จิตวิทยา
ญานสังวรธรรม
แปลบาลี
ญาน กถา

sitePage52 = สนทนา วิสุทธิ


    •ข่มไว้ ด้วยฌาน4
    •ด้วยการชำแรก ซึ่งวัฏฏสงสาร
    •ด้วยการตัดขาดภายใน โดยโลกุตตะระมรรค
    •ด้วยสำราญความสงบ ปฏิปัดสัทธิ
    •ด้วยการสลัดออก ดับหัวใจลมหายใจ
    ไม่ประมาท กับปัจจุบัน
    ไม่ประมาท ซึ่งความตาย วินาทีนั้น
    ดำรงความจางคลาย กับปัจจุบัน

    มีแรงบันดาลใจแรงกล้า
    จึงเกิด มุมานะ--ตั้งใจมั่น --> รวมจิตได้

    หาลึกเข้าไปในจิต ซึ่งภาระที่ไม่ยอมวาง
    เมื่อวางลงเสียได้เมื่อไหร่ อิสระทันที

    การทำสมาธิแบ่งเป็น 2 ด้าน

  1. ทางกาย
    คือ กาย+เวทนา
    โดยทำให้ ลมหายใจแผ่วเบา และ หัวใจเต้นเรียบ เป็นการบำรุงร่างกาย และจิตใจไปในตัว และให้มีท้องพล่อง งดอาหารหลังเที่ยง นั่งนิ่งจนมีสภาพถูกล็อคแข็งแกร่งแต่ไม่เกร็ง มีความมั่นคง

  2. ทางใจ
    คือ จิตตา+ธรรมมา
    วิธีจะเข้าถึงโดยการ ตัดกายทิ้ง???
    คือการพยายามระลึกถึงปิติทั่วร่างกาย แล้วเข้าสู่อารมภ์ใดอารมภ์เดียวแห่งปฏิุภาคนิมิต

    การเข้าสู่นิพพาน
    ด้วยการตัดลูกโซ่แห่งการก่อเกิดที่ ตัณหา อุปาทาน ไม่ให้เชื่อมเกิด ภพ ได้ คือ หยุดคิด หลังจากค้นพบแล้วว่า การก่อเกิดทุกชนิดเป็นทุกข์เปล่าประโยชน์

สุขเพราะความสงัด,
สุขเพราะไม่เบียดเบียน,
สุขเพราะปราศจากราคะ ก้าวล่วงกามเสียได้,
สุดอย่างยอด คือการนำความถือตัวออกเสียได้.

พระไตรปิฏก4.ปฐมภาณวาร

อุปทานมีอยู่ แต่ไม่ถือตาม
ถือตามมีอยู่ แต่มีสติไม่ถือ

เพราะวิราคะ อวิชชาจึงดับ
--ปราศจาก โมหะ โทสะ โลภะ--
-คลายจาก ความอยากกระหายอันกดดัน-
เพราะอวิชชาดับ สังขารจึงดับ
--จึงหยุดคิด ไม่คิด--
เพราะสังขารดับ วิญญานจึงดับ
--ไม่ก่อเกิด กายใจสงบ--
เพราะวิญญานดับ นามรูปจึงดับ
--หัวใจจึงราบเรียบเสมอดับ--
เพราะนามรูปดับ สฬายตนะจึงดับ
--หัวใจไม่กระเทือน--
เพราะสฬายตนะดับ ผัสสะจึงดับ
--หยุดการกระตุ้นอวัยวะ--
เพราะผัสสะดับ เวทนาจึงดับ
--ไม่ถูกกระตุ้น ไม่รู้สึก--
เพราะเวทนาดับ ตัณหาจึงดับ
เพราะตัณหาดับ อุปาทานจึงดับ
เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ
เพราะภพดับ ชาติจึงดับ

เพราะเป็นปัจจัยจึงมี เพราะปัจจัยดับจึงดับ

๑. มีสิ่งหวงแหน (เช่น สตรี ) หรือไม่
๒. มีจิตผูกเวรหรือไม่
๓. มีจิตเบียดเบียนหรือไม่
๔. มีจิตเศร้าหมอง ( ด้วยกิเลส ) หรือไม่
๕. ทำจิตเป็นให้ไปในอำนาจได้หรือไม่

    เครื่องเกาะจิตอันเศร้าหมอง
  1. วิจิกิจฉา
  2. อะมะนะสิการ
  3. ถีนะมิทธะ
  4. ความหวาดเสียว
  5. ความตื่นเต้น
  6. ความชั่วหยาบ
  7. ความเพียรที่มุ่งมั่นเกินไป
  8. ความเพียรที่ย่อหย่อนเกินไป
  9. ตัณหาที่คอยกระซิบกระตุ้น
  10. ความสำคัญสภาวะต่างกัน
  11. ลักษณะที่เพ่งเล็งรูปเกินไป

     

    withhold
    ระงับ, ยั้ง, ดอง, ไม่ยอมให้, ยั้งมือ

    settle
    ชำระ, ระงับ, ตกลง, กำหนด, ยุบ, เข้าที่

    quell
    ระงับ, ปราบ, ทำให้สงบ, ดับไฟ, ระงับอารมณ์ stay
    คอย, พักอยู่, หยุดอยู่, อาศัยอยู่, ยืนหยัด, ระงับ

    deaden
    ระงับ, ทำให้ชา, ทำให้มึน, ทำให้ไม่รู้สึก, ทำให้หย่อนลง

    forbear
    อดทน, หักห้าม, อดกลั้น, ละเว้น, ระงับ, ข่มใจ refrain
    ละเว้น, งด, ระงับ, ว่างเว้น, กลั้น, ข่มจิต

    mortify
    ระงับ, ฉีกหน้า, ทรมานร่างกาย, ทำให้บัดสี, ทำให้เสียใจ

    propitiate
    เอาใจ, ระงับ, ประจบประแจง, ป้อยอ, ปลอบ, บรรเทา

    abate
    บรรเทา, รา, ระงับ, รำงับ, ค่อยยังชั่ว, เบาบาง

    allay
    บรรเทา, ระงับ, ทำให้สงบ, ทำให้น้อยลง, คลายกังวล

    alleviate
    บรรเทา, ระงับ, แบ่งเบา, ทำให้น้อยลง, คลายใจ, ค่อยยังชั่ว

    assuage
    ระงับ, ทำให้บรรเทา, ทำให้ผ่อนคลาย, ค่อยยังชั่ว, น่าพึงพอใจ

    calm
    ใจเย็น, ระงับ, เงียบสงบ, ไม่ตื่นเต้น, ไม่มีลม, หงิมๆ