ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลาย ย่อมหลั่งไหลไปสู่ธรรมทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายย่อมยังธรรมทั้งหลายให้บริบูรณ์ เพื่อจากเตภูมิกวัฏอันมิใช่ฝั่งไปถึงฝั่ง คือ นิพพานด้วยประการดังนี้แล ฯ
เราเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติภายใต้ความแปรปรวนไปสู่การจบสิ้นสภาพ. - ขอจง มีลมหายใจแม้แผ่วเบา ได้สุดขั้ว กันเถิด.
ศึล - อินทรี - อาหาร - ชำระจิตให้ตื่นอยู่เสมอ
อำพล จงสิทธิผล
Ampol Chongsitthiphol
เสียสละ ... อดทน ... รับวิบากผู้อื่นไว้บ้าง ... ... แต่มันเหนื่อยนะ เหนื่อยสุดสุดเลยมึง
คำสั่งสอนจาก... พระอาจารย์ใหญ่
เมื่อเข้าสู่ ความนิ่งอันประเสริฐ แล้ว อินทรีย์สงบ จิตระงับ (การสลัดคืน จะเกิดตามมา) จะมีสภาพ ลำดับนี้
  • วิสุทธิ คือ สภาพใจสะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส ผุดผ่อง บรรเจิด ภายใน (และมีอนิสงค์ ต่อกายภายนอกในภายหลัง)
  • วิมุตติ คือ สภาพใจเป็นอิสระจาก สภาพแวดล้อมที่เจือด้วยภพ (ส่วนผสมโมหะ โทสะ โลภะ)

    มีนิพพาน เป็นที่สุด หรือ ปลายทางแห่งทุกข์ เส้นทางจิตจบลงแค่นี้ ด้วย ญานทัสสนะอันหมดจดเกลี้ยงเกลา

  • นิพพาน การอยู่ในสภาพไม่มีการก่อเกิด
    ( อันมาจาก ไม่คิดต่อ ปรุงแต่งต่อ เพราะตัวทำให้คิดต่อปรุงแต่งต่อคือ ตัวโมหะ โทสะ โลภะ)

กัลญานมิตรที่ดี ... ควรเป็นผู้มีวาจาไพเราะ เป็นที่ปรึกษาที่ดี และ เป็นผู้อดทนต่อถ้อยคำ
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา๕ วิโมกข์๘ และ อภิญญา๖ พึงทำให้แจ้งชัด

บทเรียนพื้นฐานราชาโยคะ
 
กาลเวลาได้ผ่านไปพร้อมประสบการณ์ในการเข้าใจชีวิต ที่ชัดเจนขึ้น หรือเพียงแต่เพิ่มความสับสน ความกลัว ความตึงเครียด ด้วยการไขว่คว้าเพียงคุณค่า ทางวัตถุภายนอก จนลืมจุดหมายที่แท้จริงของชีวิต หรือมองชีวิดเป็นเรื่องของเคราะห์กรรมที่ให้ความทุกข์ จึงเรียกร้องหาการหลุดพ้นในรูปแบบต่างๆ กลายเป็นสภาพที่มีขีดจำกัดที่กักขังจิตใจอย่างไร้ทางออก
เราได้ใช้เวลาในการศึกษา เรียนรู้ และพัฒนาความเจริญใน ด้านต่างๆภายนอก เพื่อสร้างแนวทางการดำเนินชีวิตที่มีความสุข สบาย ด้วยวิทยาการที่รุดหน้าอยู่ในปัจจุบัน แต่ ปัญหาด้านด่างๆ ทั้งโรคภัยทางร่างกาย ปัญหาสังคมในทุกระดับชั้น ความอดอยาก การแบ่งแยกซึ่งนำไปสู่ภาวะสงคราม รวมทั้งปัญหาสิ่งแวดล้อมซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น กลับสะท้อนให้เห็นผลในทางตรงข้ามอย่างไม่คาดคิด ทำให้ต้องหันมาทบทวนถึงแนวทางการใช้ชีวิตใหม่ ด้วยการกลับไปยังจุดเริ่มต้นเพื่อศึกษาชีวิตภายในตนเอง (Inner Life) และคันหาเงื่อนงำความหมาย และคุณค่าที่ถูกต้องในการดำเนินชีวิต เพื่อให้ได้ความสุข-สงบ ที่แท้จริง 
หลักสูตร พื้นฐานราชาโยคะ
พร้อมให้คำตอบในแง่มุมต่างๆของ ชีวิตดังนี้


 
 
 1. ฉันคือใคร? คือร่างกายภายนอกที่เห็นได้ด้วยตา หรือพลังชีวิต(ดวงวิญญาณ) ที่อยู่ภายในซึ่งไม่อาจมองเห็น? ดวงวิญญาณมีจิตใจ สติปัญญา และจิตใต้สำนึกหรือ รอยประทับที่ทำงานร่วมกันเป็นวงจร เกี่ยวโยงกับบุคลิกภาพ/เอกลักษณ์เฉพาะตัวของฉันได้อย่างไร? 

ร่างกาย คือวัตถุธาตุทั้ง 5 ดิน น้ำ ไฟ ลม อากาศ ซึ่งรวมตัว กันอย่างเหมาะสม จนกลายเป็นสรีระ ที่เห็นได้ด้วยตา ร่างกายจึงเป็นเพียงวัตถุที่ไร้ชีวิต และอยู่ภายใต้เงื่อนไขกฎของการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ จึงมีการเสื่อมสลาย

ดวงวิญญาณ คือพลังชีวิตที่ไม่ดับสูญ เป็นจุดแสงเล็กๆที่ไม่ อาจมองเห็นได้ด้วยตา อยู่บริเวณจุดกึ่งกลางหน้าผาก (บริเวณไฮโปทาลามัส) หรือตำแหน่งดวงตาที่ 3 ดวงวิญญาณควบคุม การทำงานของร่างกาย โดยใช้สมองเป็นศูนย์การควบคุมผ่าน ระบบประสาทและฮอร์โมน เพื่อให้ร่างกายสามารถปฏิบัติงานได้ตามที่ต้องการ
 
องค์ประกอบของดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณประกอบไปด้วย 3 หน่วยงานคือ จิตใจ สติปัญญา และรอยประทับหรือจิตใต้สำนึก ความคิดเกิดขึ้นในจิตใจ โดยมีสติปัญญาไตร่ตรองแยกแยะ และตัดสินให้ความคิดกลายเป็นการกระทำ ประสบการณ์ จากการกระทำจะถูกบันทึกในรูปของความทรงจำ นิสัย ในจิตใต้สำนึก ซึ่งจะย้อนกลับมาสร้างความคิดใหม่ กลายเป็นวงจรความคิดที่หมุนเวียนอย่างไม่จบสิ้น และ กลายเป็นบุคลิกภาพที่กำหนดเอกลักษณ์เฉพาะของแด่ละ ดวงวิญญาณ
2. สิ่งสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด ซึ่งได้รับชื่อแตกด่างกัน มากมายในแต่ละมุมโลกเช่น พระเจ้า พระอิศวร พระยโฮวา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ เป็นความจริงหรือเป็นเพียงตำนานความเชื่อ? ความสัมพันธ์ทางจิต ระหว่างดวงวิญญาณมนุษย์กับดวงวิญญาณสูงสุดเป็นเช่นไร?
3 กฎแห่งกรรม เป็นเพียงแนวความคิดในการดำเนิน ชีวิต หรือเป็นกฎทางจิตที่ควบคุมกลไกการอยู่ร่วมกัน ระหว่างดวงวิญญาณมนุษย์กับสรรพสิ่ง , ฉันได้เข้าใจ กฎแห่งกรรม และกฎธรรมชาติที่เป็นเหตุผลของ ความสุข-ทุกข์ในชีวิตเพียงใด? ฉันจะหยุดการดึงรั้ง จากอดีตกรรมที่ให้ความทุกข์ และจะสร้างอนาคตที่ งดงามด้วยเวลาที่เหลือในชีวิตอย่างไร?
4. ชีวิต ขึ้น-ลง เป็นวัฏจักรที่หมุนไปอย่างไม่จบสิ้น และเกี่ยวร้อยทุกสิ่งทั้งผู้คน วัตถุ และสถานการณ์ให้กลาย เป็นละครชีวิต ด้วยฉากต่างๆของความสุข(สวรรค์) ความทุกข์(นรก) ได้อย่างไร? อะไรที่นำชีวิตฉันให้มา เผชิญกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ฉันกำลังยืนอยู่ ณ จุดใด ของวัฏจักรกาลเวลานี้ และกำลังจะไปที่ใด?
5. ธรรมชาติ อารยธรรม และการดำเนินชีวิตดั้งเดิมที่ สูงส่งงดงามของมนุษย์เป็นเช่นไร? อะไรเป็นสาเหตุของการเสื่อมถอยทางจิตใจ จนศาสนาต่างๆในโลกได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อให้แง่คิด ในการเข้าใจชีวิต และฉันจะกลับคืนสภาพที่สูงส่งงดงามตามธรรมชาติที่แท้จริงอีกครั้งได้อย่างไร?
 
 
โอมชานติ
(ฉันคือดวงวิญญาณที่สงบ)
ปุรุศารถะ หรือ เป้าหมายของชีวิตเป้าหมายของชีวิตตามแนวทางของปรัชญาชมพูทวีปนั้นคือสิ่งที่คนเรากำลังแสวงหาเพื่อให้ได้มาหรือบรรลุถึงความจริงอันสูงสุด ปุรุศารถะ ในปรัชญาชมพูทวีปได้แก่ อรรถะ กามะ ธรรมะ และโมกษะ

อรรถะ คือ ความมั่งคั่ง ร่ำรวย ทรัพย์สมบัติ หรือความมั่งคั่งทางวัตถุ

กามะ คือ ความปรารถนา ความต้องการ ความพึงพอใจจากการได้ตอบสนองความต้องการ

- ธรรมะ คือ คุณธรรม ความดีงาม

โมกษะ คือ หลุดพ้นจากทุกข์โดยสิ้นเชิง อาจจะเปรียบได้กับ นิพพานของพุทธ

มนุษย์ไม่จำเป็นต้องยึดถือและปฏิบัติตามหลักการทั้ง 4 ปุรุศารถะ พร้อมกันตลอดเวลาเสมอไป เพราะเมื่อไรก็ตามที่มนุษย์เรากระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งนั้นการกระทำของเราก็จะเป็นไปตาม    ปุรุศารถะ ทั้ง 4 นี้เสมอไม่ข้อใดก็ข้อหนึ่งเป็นอย่างน้อยและเมื่อถึงวัยอันควรฮินดูชนทุกคนควรที่จะครองหลักการทั้ง 4 ไว้ได้ทุกอันเพื่อนำตนเองเข้าสู่โมกษะ

จิตเหนือร่างกายคือ โยคะ โยคะเป็นปรัชญาของศาสนาฮินดูที่ได้ถูกรวบรวมไว้โดยนักบวชท่านหนึ่งคือ ท่าน กนาทะผู้ตั้งลัทธิไวเศษิกะ โยคะไม่ได้เป็นเพียงแต่การฝึกฝนร่างกายหากแต่ยังรวมถึงการฝึกฝนจิตใจให้เป็นสมาธิเพื่อเข้าถึงพระเป็นเจ้า หลายพันปีที่ผ่านมานับตั้งแต่มีการสร้างโลกโดยพระเป็นเจ้าตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เหล่านักบวช คุรุเทพ หรือนักปราชญ์ทั้งหลายต่างก็ได้แสวงหาความรู้ ความจริง เพื่อให้ตนเองเอาชนะกฎของธรรมชาติ หรือพยามเข้าใจความเป็นไปของธรรมชาติเพื่อให้ตนเองหลุดพ้นเข้าสู่โมกษะไปรวมกับพรหม สถิตยังเทวโลก ซึ่งเหล่านักภรต ฤษี ต่างก็ค้นหาหนทางของตนเองตามหลักคัมภีร์พระเวทและการอรรถาธิบายตีความออกไปเพื่อให้เกิดความกระจ่างและหนึ่งในนั้นคือโยคะ คือการฝึกจิตเหนือร่างกายเป็นการฝึกเฉพาะในกลุ่มของนักภรต โยคี ชนชั้นวรรณะพราหมณ์เพื่อเอาชนะความเจ็บป่วยของร่างกายโดยใช้จิตเป็นตัวควบคุม

ของชำร่วยกระเป๋าผ้า ถุงผ้าร่มสตอร์เบอรี่ แพ็คถุงผ้าไหมแก้วหัวฟู ราคาถูก


อทุกฺขมสุขํ
อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ
จตุตฺถํ ฌานํ
อุปสมฺปชฺช วิหาสึ ฯ
สัจธรรมแห่งชีวิต

ทำนายชื่อสกุล



รายการน่าสนใจ
ค้นหาคำในพระไตรปิฏก
จิตบรรลุนิพพาน
(สมเด็จพระญาณสังวร)

wunjun - ood
ibuddha - wix
บาลีเทียบเคียง
จิตวิทยา
ญานสังวรธรรม
แปลบาลี
ญาน กถา

sitePage39 = โยคะ


    •ข่มไว้ ด้วยฌาน4
    •ด้วยการชำแรก ซึ่งวัฏฏสงสาร
    •ด้วยการตัดขาดภายใน โดยโลกุตตะระมรรค
    •ด้วยสำราญความสงบ ปฏิปัดสัทธิ
    •ด้วยการสลัดออก ดับหัวใจลมหายใจ
    ไม่ประมาท กับปัจจุบัน
    ไม่ประมาท ซึ่งความตาย วินาทีนั้น
    ดำรงความจางคลาย กับปัจจุบัน

    มีแรงบันดาลใจแรงกล้า
    จึงเกิด มุมานะ--ตั้งใจมั่น --> รวมจิตได้

    หาลึกเข้าไปในจิต ซึ่งภาระที่ไม่ยอมวาง
    เมื่อวางลงเสียได้เมื่อไหร่ อิสระทันที

    การทำสมาธิแบ่งเป็น 2 ด้าน

  1. ทางกาย
    คือ กาย+เวทนา
    โดยทำให้ ลมหายใจแผ่วเบา และ หัวใจเต้นเรียบ เป็นการบำรุงร่างกาย และจิตใจไปในตัว และให้มีท้องพล่อง งดอาหารหลังเที่ยง นั่งนิ่งจนมีสภาพถูกล็อคแข็งแกร่งแต่ไม่เกร็ง มีความมั่นคง

  2. ทางใจ
    คือ จิตตา+ธรรมมา
    วิธีจะเข้าถึงโดยการ ตัดกายทิ้ง???
    คือการพยายามระลึกถึงปิติทั่วร่างกาย แล้วเข้าสู่อารมภ์ใดอารมภ์เดียวแห่งปฏิุภาคนิมิต

    การเข้าสู่นิพพาน
    ด้วยการตัดลูกโซ่แห่งการก่อเกิดที่ ตัณหา อุปาทาน ไม่ให้เชื่อมเกิด ภพ ได้ คือ หยุดคิด หลังจากค้นพบแล้วว่า การก่อเกิดทุกชนิดเป็นทุกข์เปล่าประโยชน์

สุขเพราะความสงัด,
สุขเพราะไม่เบียดเบียน,
สุขเพราะปราศจากราคะ ก้าวล่วงกามเสียได้,
สุดอย่างยอด คือการนำความถือตัวออกเสียได้.

พระไตรปิฏก4.ปฐมภาณวาร

อุปทานมีอยู่ แต่ไม่ถือตาม
ถือตามมีอยู่ แต่มีสติไม่ถือ

เพราะวิราคะ อวิชชาจึงดับ
--ปราศจาก โมหะ โทสะ โลภะ--
-คลายจาก ความอยากกระหายอันกดดัน-
เพราะอวิชชาดับ สังขารจึงดับ
--จึงหยุดคิด ไม่คิด--
เพราะสังขารดับ วิญญานจึงดับ
--ไม่ก่อเกิด กายใจสงบ--
เพราะวิญญานดับ นามรูปจึงดับ
--หัวใจจึงราบเรียบเสมอดับ--
เพราะนามรูปดับ สฬายตนะจึงดับ
--หัวใจไม่กระเทือน--
เพราะสฬายตนะดับ ผัสสะจึงดับ
--หยุดการกระตุ้นอวัยวะ--
เพราะผัสสะดับ เวทนาจึงดับ
--ไม่ถูกกระตุ้น ไม่รู้สึก--
เพราะเวทนาดับ ตัณหาจึงดับ
เพราะตัณหาดับ อุปาทานจึงดับ
เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ
เพราะภพดับ ชาติจึงดับ

เพราะเป็นปัจจัยจึงมี เพราะปัจจัยดับจึงดับ

๑. มีสิ่งหวงแหน (เช่น สตรี ) หรือไม่
๒. มีจิตผูกเวรหรือไม่
๓. มีจิตเบียดเบียนหรือไม่
๔. มีจิตเศร้าหมอง ( ด้วยกิเลส ) หรือไม่
๕. ทำจิตเป็นให้ไปในอำนาจได้หรือไม่

    เครื่องเกาะจิตอันเศร้าหมอง
  1. วิจิกิจฉา
  2. อะมะนะสิการ
  3. ถีนะมิทธะ
  4. ความหวาดเสียว
  5. ความตื่นเต้น
  6. ความชั่วหยาบ
  7. ความเพียรที่มุ่งมั่นเกินไป
  8. ความเพียรที่ย่อหย่อนเกินไป
  9. ตัณหาที่คอยกระซิบกระตุ้น
  10. ความสำคัญสภาวะต่างกัน
  11. ลักษณะที่เพ่งเล็งรูปเกินไป

     

    withhold
    ระงับ, ยั้ง, ดอง, ไม่ยอมให้, ยั้งมือ

    settle
    ชำระ, ระงับ, ตกลง, กำหนด, ยุบ, เข้าที่

    quell
    ระงับ, ปราบ, ทำให้สงบ, ดับไฟ, ระงับอารมณ์ stay
    คอย, พักอยู่, หยุดอยู่, อาศัยอยู่, ยืนหยัด, ระงับ

    deaden
    ระงับ, ทำให้ชา, ทำให้มึน, ทำให้ไม่รู้สึก, ทำให้หย่อนลง

    forbear
    อดทน, หักห้าม, อดกลั้น, ละเว้น, ระงับ, ข่มใจ refrain
    ละเว้น, งด, ระงับ, ว่างเว้น, กลั้น, ข่มจิต

    mortify
    ระงับ, ฉีกหน้า, ทรมานร่างกาย, ทำให้บัดสี, ทำให้เสียใจ

    propitiate
    เอาใจ, ระงับ, ประจบประแจง, ป้อยอ, ปลอบ, บรรเทา

    abate
    บรรเทา, รา, ระงับ, รำงับ, ค่อยยังชั่ว, เบาบาง

    allay
    บรรเทา, ระงับ, ทำให้สงบ, ทำให้น้อยลง, คลายกังวล

    alleviate
    บรรเทา, ระงับ, แบ่งเบา, ทำให้น้อยลง, คลายใจ, ค่อยยังชั่ว

    assuage
    ระงับ, ทำให้บรรเทา, ทำให้ผ่อนคลาย, ค่อยยังชั่ว, น่าพึงพอใจ

    calm
    ใจเย็น, ระงับ, เงียบสงบ, ไม่ตื่นเต้น, ไม่มีลม, หงิมๆ